
กับรายชื่อกองกลางทีมชาติไทย ที่ยาวกว่ากองไฟของหลวงปู่เค็ม ทำเอาหลายคนวิเคราะห์กันไปในมุมต่างๆนานา
ตัวเลขกว่า 17 คน ซึ่งมากกว่าครึ่ง ที่ อากิระ นิชิโนะ ขีดใส่กระดาษมา ถือว่าเยอะสุดในประวัติศาสตร์การเรียกตัวผู้เล่น "ช้างศึก"
ควาญช้างชาวญี่ปุ่น จะต้มยำทำแกง เนรมิตแท็คติกทีมชาติไทยออกมารูปแบบไหน กับรูปแบบการเรียกตัวเช่นนี้ ในฟุตบอลยุคสมัยใหม่ที่ "กองกลาง" มีความสำคัญอย่างมาก ในการเป็นประตูแห่งชัยชนะ
แม้มองจากรายชื่อทั้ง 33 คน หลายคนเห็นภาพร่างคร่าวๆว่า มีเปอร์เซ็นต์สูงที่ นิชิโนะ จะใช้แบบแผนการเล่นระบบ 4-2-3-1 หรือ 4-5-1 โดยมีกองหน้าตัวเป้าเพียงคนเดียว หรืออาจใช้ระบบ false 9 หมายเลข 9 ตัวหลอก โดยเอาผู้เล่นกองกลางเข้ามาเป็นกองหน้า ซึ่งก็ถือว่ามีความเป็นไปได้ทั้งหมด
ปัญหาคือจากตัวเลขผู้เล่นกองกลางที่มากถึง 17 คน ทำให้ต้องมีนักเตะราว 6-7 ในตำแหน่งนี้แน่ ที่จะไม่ได้ไปต่อใน 23 คนสุดท้าย
ซึ่งผู้เขียนมองว่าทั้ง 17 คนนี้แบ่งได้เป็น 4 กลุ่มดังนี้
1. ตัวหลักที่ขาดไม่ได้!
กลุ่มนี้ความน่าจะเป็นของผู้เขียนมีแค่ 2 คน นั่นคือ ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ 2 ผู้เล่นที่ค้าแข้งในลีกปลาดิบ หากไม่มีฟ้าผ่า หรือโดนอาการบาดเจ็บมาเยี่ยม ทั้งคู่น่าจะเป็น 11 คนแรกในทีมชาติชุดนี้อยู่แล้ว ด้วยประสบการณ์และฝีตีนที่ตอบได้เป็นอย่างดี
ดังนั้นสไตล์ของ นิชิโนะ เองน่าจะยืน 2 นักเตะคนนี้ไว้ในใจเรียบร้อย พร้อมคัดสรรหาแข้งรายอื่นที่เหลือมาใส่เพิ่ม โดยใช้เวลาเกือบสัปดาห์จากนี้ ดูผลงานจากการเข้าแคมป์เก็บตัว และเกมอุ่นเครื่อง
2. ประสบการณ์แข้งหน้าเก่า
การเข้ามาจับพลัดจับผลูบนหลังช้างได้ไม่นาน แน่นอนว่า นิชิโนะ เองคงไม่มีเวลากวาดก่ายสายตามองผู้เล่นไทยครบทุกรูขุมขน ฉะนั้นหากมีผู้เล่นกองกลางหน้าเดิม ที่เป็นขาประจำทีมชาติไทยอยู่แล้ว และมากประสบการณ์อยู่ในทีมไว้ก่อน คงจะดีไม่น้อย
เพราะอย่าลืมว่ากรอบเวลาที่จำกัด บวกกับทัวร์นาเมนต์ใหญ่ระดับฟุตบอลโลกที่มีความสำคัญสูง ไม่มีโค้ชคนไหน "ล้างบาง" นักเตะหน้าเก่าออกจากทีมทั้งหมดแน่ อย่างน้อยต้องมีผู้เล่นกลุ่มนี้ต้องมีอยู่ในทีม แม้ฟอร์มการเล่นในลีกอาจถูกตั้งคำถาม แต่เรียกเข้ามาเข้าแคมป์มา "ลองก่อน" ก่อนคงไม่ผิดอะไร เพราะหากไม่เวิร์กจะถูกหั่นทิ้งก็ไม่สาย
ผู้เล่นในกลุ่มนี้น่าจะเป็นแข้งอย่าง พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี, สารัช อยู่เย็น, สรรวัชญ์ เดชมิตร หรือ ธนบูรณ์ เกษารัตน์
3. กองกลางฟอร์มโหด
กลุ่มนี้จะเป็นบรรดาหน้าใหม่ที่โชว์ฟอร์มดีในลีก และเตะลูกกะตา นิชิโนะ จนกุนซือเลือดบูชิโดมองแล้วว่าน่าจะตอบโจทย์กับแท็คติก
ในกรุ๊ปนี้จะมีผู้เล่นอย่าง พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, สุภโชค สารชาติ, ศิวกรณ์ เตียตระกูล, เอกนิษฐ์ ปัญญา, บดินทร์ ผาลา ศศลักษณ์ ไหประโคน หรือ พิชา อุทรา ซึ่งผู้เล่นหลุ่มนี้อาจไม่มีข้อขัดง้างอะไรกับแฟนบอลไทย หรือ ชาวคียืบอร์ดไลเซนส์มากนัก
แต่เชื่อเถอะว่าก็ยังไม่มีใครในแก๊งนี้การันตีตำแน่งในยุคของ นิชิโนะ ได้ 100 เปอร์เซ็นต์เช่นกัน
4. ดาวรุ่งที่เป็นกำลังหลักในทีม U-23
อย่างที่รู้กันว่า 33 คนในทุกตำแหน่งที่ นิชิโนะ คัดสรรมานั้นมีผู้เล่นระดับ U-23 ติดทีมมาด้วยหลายคน ซึ่งแข้งเหล่านี้ คือกำลังหลักให้ช้างศึกชุดเล็กในทัวร์นาเมนต์ ซีเกมส์ ปลายปีนี้ รวมถึงในศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้ายต้นปีหน้า การเรียกเด็กนรกเหล่านี้ขึ้นมาซึมซับแท็คติก น่าจะเป็นผลดีต่อตัวนักเตะ และ นิชิโนะ เองก็จะได้เห็นข้อดี-ข้อเสีย ของดาวรุ่งเหล่านี้ เพราะอย่าลืมว่าเฮดโค้ชเลือดซามูไร ต้องคุมทัพ U-23 อีกชุด
ฉะนั้นในตำแหน่งนี้ ไม่แปลกที่จะมีรายชื่ออย่าง รัตนากร ใหม่คามิ, เจริญศักดิ์ วงษ์กร, พัชรพล อินทนี, อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ เข้ามา
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าในกลุ่มนี้จะมีโอกาสติดเป็น 23 คนสุดท้ายน้อยกว่า 3 กรุ๊ปแรก หากฟอร์มพวกเขาทำได้ดีตอนเก็บตัว ก็ไม่มีเหตุผลอะไร ที่ นิชิโนะ จะไม่หนีบเด็กกลุ่มนี้ไปด้วย
ที่มา เกมยิงปลาออนไลน์
|